การ เลือก หลอด ไฟ ใน บ้าน
- เลือกหลอดไฟในบ้านแบบไหนดีครับ ช่วยแนะนำผมที - Pantip
- 7 เทคนิคเลือกหลอดไฟให้คุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในยุคประหยัด
- โคมไฟระย้า LED สำหรับบ้าน: ประเภทการเลือกรูปถ่าย
Daylight = แสงธรรมชาติ: เป็นแสงที่ได้มาโดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าบ้านหรือห้องภายในคอนโดมิเนียมเรานั้นหันไปทิศทางที่เหมาะสมนั้น แสงที่เข้าสู่ตัวอาคารทำให้บรรยากาศภายในน่าอยู่อาศัย ที่ประโยชน์จากวิวด้านนอก ทำให้บ้านดูโปร่ง เชื่อมต่อพื้นที่ภายใน จากช่องเปิดต่างๆ นอกจากนั้นแล้ว แสงธรรมชาติยังเป็นยารักษาโรคซึมเศร้าในประเทศที่แทบจะไม่ได้สัมผัสแสงอาทิตย์ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่จะมาพร้อมกับความร้อน ควบคุมปริมาณแสงได้ยาก และควรใช้ร่วมกับแสงประดิษฐ์ 2. General Lighting = ไฟส่องสว่างทั่วไป: เป็นการให้แสงสว่างทั่วไป ทั้งการให้แสงสว่างภายในอาคารสำหรับการประกอบกิจกรรมในเวลากลางวัน และภายนอกอาคารเพื่อความปลอดภัยในเวลากลางคืน ไม่เน้นความสวยงาม มักเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ โคมซาลาเปา ธรรมดาที่ตามโครงการให้มา จัดเป็นแสงเน้นการใช้งาน 3. Task Lighting: ไฟส่องเฉพาะที่ = เป็นการให้แสงสว่างในบริเวณที่เราต้องใช้งาน หรือการมองเห็นโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณพื้นที่ทำงาน ครัว มักใช้โคมไฟตั้งโต๊ะหรือส่องเฉพาะเพื่อให้เราทำกิจกรรมได้สะดวก จัดเป็นแสงเน้นการใช้งาน 4. Accent Lighting: ไฟส่องเน้น = เป็นการให้แสงแบบส่องเน้นที่วัตถุใดวัตถุหนึ่งเพื่อให้เกิดความสนใจ โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นการใช้ส่องเน้นประเภทรูปภาพ หรือวัตถุที่เราอยากให้โดดเด่น หรือเน้นผิวของวัสดุที่เรานำมาตกแต่งภายในให้โดดเด่น จัดเป็นแสงเน้นการตกแต่ง 5.
เลือกหลอดไฟในบ้านแบบไหนดีครับ ช่วยแนะนำผมที - Pantip
- เลือกดาวน์ไลท์ตามการใช้งาน | ไฟดาวน์ไลท์ มีทุกสเปค ดูที่นี่ก่อน
- 5 ข้อควรรู้ ก่อนเสียเงินเปย์ Chanel Classic Flap Bag ไว้ครอบครอง
- 10 เรื่องจริงของ Cafe Amazon (คาเฟ่ อเมซอน) ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ~ LUPAS | ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ อ เม ซอน เปิด กี่ โมงที่ถูกต้องที่สุด
- สาย นาฬิกา หนัง แท้ 18mm race
- ซัม ซุง s10 lite ราคา
- กังหัน น้ํา ผลิต กระแส ไฟฟ้า
- การเลือกไฟในบ้าน
- แค่จัดแสงก็ชนะเลิศ เลือกแสงไฟอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน – THE STANDARD
- ร้าน ส แตน เล ส สมุทรปราการ
7 เทคนิคเลือกหลอดไฟให้คุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในยุคประหยัด
ก่อนจะเลือกซื้อหลอดไฟ เราควรทำความรู้จักกับประเภทของหลอดไฟว่ามีกี่แบบ แต่ละประเภทใช้งานอย่างไร มีการกินไฟมากน้อยแค่ไหน และการเลือกหลอดไฟแต่ละประเภท จะส่งผลดีและผลเสียอย่างไรบ้าง เรามาทำความรู้จักหลอดไฟทั้งหมด 7 ประเภทกันเลย 1. หลอดไส้ หรือ หลอดอินแคนเดสเซนท์ บางครั้งหลายคนมักเรียกว่าหลอดดวงเทียน รูปทรงเป็นแบบแก้วใสและเเก้วฝ้า ไส้หลอดทำมาจากทังสเตน ยิ่งเกิดความร้อนยิ่งทำให้มีแสงสว่างออกมาจากไส้หลอด มีแสงสีเหลืองส้ม มีอายุการใช้งานค่อนข้างน้อย เปลืองไฟมากกว่าหลอดไฟแบบอื่น ๆ เพราะใช้พลังงานในการให้แสงสว่างค่อนข้างมาก หลอดไฟประเภทนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนำไปใช้งาน 2. หลอดเมทัลฮาไลน์ แสงสว่างจะคล้ายกับหลอดแสงจันทร์แต่จะสว่างมากกว่า ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ภายใต้แสงแดดจริงๆ ภายในทำมาจากทังสเตนล้วน กับกระเปาะผสมฮาไลน์ชนิดต่าง ๆ มีอายุการใช้งานประมาณ 24, 000 ชม. มักใช้กับงานที่ต้องการแสงไฟใกล้เคียงกับของจริง เช่น การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ห้างสรรพสินค้า งานพิมพ์ สนามกีฬา เป็นต้น 3. หลอดฮาโลเจน การทำงานจะคล้ายกับหลอดไส้ โดยแสงมีกำเนิดมาจากความร้อน ซึ่งกระแสไฟจะไหลผ่านทังสเตน ถึงแม้จะทำงานคล้ายกัน แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างตรงที่มีการบรรจุสารตระกูลฮาโลเจน ทำให้มีอายุการใช้งาน ปริมาณของแสง และอุณหภูมิสีมากกว่าหลอดไส้ที่มีแสงสีขาวและค่าความถูกต้องของสีถึง 100% อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 1, 500-3, 000 ชม.
เลี่ยงการใช้ความร้อนขณะเปิดแอร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เช่น กระติกน้ำร้อน เตารีด เตาปิ้งย่างไฟฟ้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้ความร้อนในห้องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น และในทางตรงกันข้าม ถ้าเครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น อุณภูมิในห้องเย็นขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สร้างความร้อน ก็จะต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการสร้างความร้อนเช่นกัน คือมีแต่เปลืองไฟ และเปลืองไฟไปอีกเป็นเท่าตัว 8. ทำความสะอาดและจัดระเบียบตู้เย็น ตู้เย็นที่สกปรกและมีของอยู่มากจนเกินไปจะทำให้ตู้เย็นกินไฟมากขึ้น เพราะของที่มากเกินไปจะทำให้เครื่องทำความเย็นได้น้อยลง และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย และที่สำคัญควรตรวจสอบรอยรั่วที่ขอบยางของตู้เย็น หากรั่วให้รีบเปลี่ยนทันที เพราะความเย็นที่รั่วไหลออกมาจะทำให้เครื่องต้องทำความเย็นเพิ่มขึ้นตลอดเวลา มอเตอร์ทำงานหนักและกินไฟ 9. ดูโทรทัศน์แบบประหยัดไฟ วิธีการคืออย่าเปิดปิดด้วยรีโมท และควรถอดปลั๊กทุกครั้ง หากดูโทรทัศน์วันละ 4 ชม. จะเสียค่าไฟ 40. 50 บาท / เดือน หากไม่เปิดปิดด้วยรีโมท และถอดปลั๊ก จะประหยัดได้ 4 บาท / เดือน 10.
โคมไฟระย้า LED สำหรับบ้าน: ประเภทการเลือกรูปถ่าย
เลือกแสงของหลอดไฟ ให้เหมาะกับห้องภายในบ้าน - YouTube
ห้องนอน เป็นห้องสำหรับพักผ่อน จึงควรเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ ไม่ต้องมีแสงสว่างมากนัก เลือกหลอดไฟแบบคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ชนิดที่ให้แสงออกเหลืองอ่อน (Warm White) ช่วยทำให้ห้องอบอุ่น โดยปกติห้องนอนจะมีจุดให้แสงสว่างหลักคือ โคมไฟหัวเตียงฝั่งซ้ายขวา เพื่อใช้ทำกิจกรรมเล็กน้อยก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ สำหรับห้องนอนที่มีทีวีอยู่ปลายเตียง ควรติดตั้งดาวน์ไลต์ ขนาด 11 วัตต์ บริเวณปลายเตียงอีก 1 ดวง เพื่อช่วยตัดแสงจากหน้าจอโทรทัศน์ 2.
ห้องรับประทานอาหาร ห้องแห่งรางวัลของชีวิต-บางคนก็เรียกอย่างนี้ เป็นห้องที่ผู้รู้ด้านจิตวิทยาครอบครัวแนะนำว่า ไม่ควรมีโทรทัศน์อยู่ในห้อง เพราะแทนที่สมาชิกในครอบครัวจะคอนเนกชัน สังสรรค์ปฏิสัมพันธ์กัน ก็กลายเป็นไปจดจ่อกับจอโทรทัศน์แทน นอกจากนี้การรับประทานอาหารหน้าจอแบบกินไปดู (โทรทัศน์) ไป ทุกคราวคำจิตใจไปมุ่งที่โทรทัศน์ กลายเป็นคนอ้วนที่กินอย่างไร้สติ (ว้าย! ) ควรมีโคมไฟสีออกเหลืองนวล ชนิด Fresco 300, Fresco 400 หรือ T5 แขวนอยู่ตรงกลางโต๊ะอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มแสงสีให้อาหารดูน่ารับประทานมากขึ้น ทั้งนี้ควรเป็นหลอดกลมเนื่องจากกระจายแสงได้ทั่วถึง อาจเพิ่มโคมไฟลอยที่ผนังด้วย เพื่อเพิ่มบรรยากาศความอบอุ่นและทำให้ห้องมีมิติ 7.
ใช้งานหลอดไฟแบบไม่ถนอม เปิดๆ ปิดๆ เปิดทิ้งไว้ หรือใช้งานผิดประเภท ทิ้งหลอดไฟเก่ารวมกับขยะทั่วไป เพราะถือเป็นขยะมีพิษ ให้ห่อด้วยกระดาษแล้วใส่กล่องที่เคยใส่ตอนซื้อมา จากนั้นก็ติดป้ายบอกเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน
- คอน โด ทิศ ไหน ดี
- ถา-ตองการ-วาด-เสน-อสระ-ตอง-ใช-เครองมอ-ใ
- การ เลือก หลอด ไฟ ใน บ้าน